สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีอะไรบีบหัวใจไปกว่าการเห็นลูกน้อยร้องไห้งอแงเพราะความไม่สบายตัว โดยเฉพาะปัญหาเรื่องผิวพรรณอย่าง "ผดผื่น" ที่ดูเหมือนจะเป็นของคู่กันกับเด็กทารก หลายครอบครัวพยายามหาสารพัดยามาทา เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ซักผ้า หรือระวังเรื่องความสะอาดอย่างที่สุด แต่ทำไมผื่นแดงเหล่านั้นก็ยังวนเวียนกลับมาเป็นซ้ำ ๆ ไม่หายขาดเสียที บางทีเราอาจกำลังมองข้ามจุดเล็ก ๆ ที่สำคัญที่สุดไป นั่นคือสภาพความชุ่มชื้นของผิวลูก
คุณอาจคิดว่าผิวเด็กเนียนนุ่มน่าจะมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่ดีอยู่แล้ว แต่ความจริงทางสรีรวิทยาอาจตรงกันข้าม สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้คือความจริงเรื่องผิวทารกที่ซ่อนอยู่ และมันคือ "กุญแจสำคัญ" ที่จะไขปริศนาว่าทำไมลูกของคุณถึงเป็นผื่นง่ายกว่าเด็กคนอื่น และที่สำคัญคือ เรามีวิธีหยุดวงจรผิวเสียนี้ได้อย่างไร
ทำไมผิวแห้งถึงเป็นศัตรูตัวร้ายของผิวทารก? ... โดยธรรมชาติแล้ว โครงสร้างผิวหนังของทารกนั้นแตกต่างจากผู้ใหญ่โดยสิ้นเชิง เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ของเขายังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ มีความบอบบาง และที่สำคัญคือมีความสามารถในการกักเก็บน้ำต่ำ ทำให้ความชุ่มชื้นระเหยออกจากผิวได้รวดเร็วกว่าผิวผู้ใหญ่หลายเท่าตัว เมื่อผิวลูกขาดน้ำจนเกิดภาวะ "ผิวแห้ง" จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนี้
1. การทำงานของต่อมไขมันยังไม่สมบูรณ์
ผิวเด็กผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติได้น้อย ทำให้สูญเสียน้ำได้ง่ายตลอดเวลา
2. เกิดรอยแตกขนาดเล็กที่มองไม่เห็น
เมื่อผิวแห้งตึง จะเกิดรอยแตกเล็ก ๆ (Micro-cracks) บนชั้นผิวหนัง ซึ่งเปรียบเสมือนประตูที่เปิดอ้าให้สิ่งสกปรก สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อโรค แทรกซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่ายขึ้น
3. วงจรการอักเสบ
เมื่อเกราะป้องกันผิวพังทลาย ผิวจะไวต่อสิ่งระคายเคือง แม้เพียงการเสียดสีเล็กน้อยหรือสัมผัสฝุ่น ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ กลายเป็นผื่นแดง คัน และลุกลามได้ง่าย
วิธีลดโอกาสเกิดผื่น หยุดวงจรผิวแห้งแบบได้ผลจริง ... การดูแลผิวลูกให้ไกลจากผื่น ไม่ใช่การรอให้เป็นแล้วค่อยรักษา แต่คือการสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงด้วยความชุ่มชื้น ดังนี้
1. เติมความชุ่มชื้นทันทีหลังอาบน้ำ
ช่วงเวลาทองของการทาครีม คือ ภายใน 3 นาทีหลังอาบน้ำเสร็จ ขณะที่ผิวลูกยังหมาด ๆ เพราะรูขุมขนกำลังเปิดรับการบำรุง การทาครีมในช่วงนี้จะช่วยล็อคความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิวได้ดีที่สุด และควรทำเป็นกิจวัตรทุกวัน ห้ามละเลย
2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เกิดมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ
หัวใจสำคัญคือการเลือกครีมบำรุง สูตรที่อ่อนโยนที่สุด ต้องปราศจากน้ำหอม (Fragrance-free) ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือสารกันเสียที่รุนแรง เพราะสารเคมีเหล่านี้คือตัวการที่ทำให้ผิวที่แห้งอยู่แล้วเกิดการระคายเคืองหนักกว่าเดิม
3. น้ำอาบต้องไม่ร้อนจนเกินไป
เข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่กลัวลูกหนาว แต่การใช้น้ำอุ่นจัดอาบน้ำให้ลูก จะยิ่งไปชะล้างไขมันธรรมชาติที่ผิวออกจนหมด ทำให้ผิวแห้งตึงหลังอาบน้ำ ควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
4. ควบคุมสภาพอากาศและอุณหภูมิห้อง
การเปิดแอร์เย็นจัดตลอดทั้งวันทำให้อากาศในห้องแห้ง ซึ่งจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวลูก หากจำเป็นต้องนอนห้องแอร์ ควรปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ หรือหาแก้วน้ำวางไว้ในห้องเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ
5. เลือกเสื้อผ้าที่ถนอมผิว
เนื้อผ้าที่สัมผัสผิวลูกตลอดวันต้องนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้ายคอตตอน 100% หลีกเลี่ยงผ้าใยสังเคราะห์ที่หยาบกระด้าง เพราะจะเกิดการเสียดสี ทำให้ผิวที่แห้งเกิดแผลถลอกหรือผื่นคันได้ง่าย
สมการสุขภาพผิวของลูกน้อยนั้นเข้าใจได้ไม่ยาก "ผิวที่ชุ่มชื้น คือ ผิวที่แข็งแรง" เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ เกราะป้องกันผิวจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปิดกั้นสิ่งระคายเคืองไม่ให้ทำร้ายผิว การดูแลความชุ่มชื้นให้ลูกจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น "ทางรอด" ที่จะช่วยให้ลูกน้อยอารมณ์ดี พัฒนาการสมวัย และบอกลาวงจรผื่นคันซ้ำซากได้อย่างถาวร